เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538

เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538
เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538

100 ฿
เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538เหรียญ ลป. พรหมา สวนหินผานางคอย ปี2538
คำอธิบาย

ผู้รู้จักชอบพอกันมักถามผมว่ารู้จักหลวงปู่พรหมาได้อย่างไร เหตุที่นำไปสู่การได้พบหลวงปู่นั้นเห็นจะบอกได้ว่าเพราะพระครูเทพโลกอุดร ท่านที่เชื่อถือ และเคารพในองค์พระครูเทพโลกอุดร มักกล่าวถึงพระครูเทพโลกอุดรในภาคต่างๆกัน คล้ายๆพระนารายณ์อวตารมาเกิดเป็นพระรามเป็นต้น ภาคหนึ่งที่เชื่อกันว่า พระครูเทพโลกอุดรคือสำเร็จลุน เป็นภาคที่ผมไม่เกิดความเชื่อถือ ด้วยเหตุว่าสำเร็จลุนแห่งจำปาศักดิ์นั้นมีตัวตนจริงๆ มีที่เกิดที่มรณภาพแน่ชัด และเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน ผู้เป็นลูกศิษย์สำเร็จลุนหรือผู้ที่เคยพบสำเร็จลุนบางท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ พูดง่ายๆ ว่าสำเร็จลุนก็คือสำเร็จลุน พระครูเทพโลกอุดรก็คือ พระครูเทพโลกอุดร ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ความ เชื่อถือของผมออกจะขัดแย้งกับความเชื่อถือของฝ่ายพระครูเทพโลกอุดรเอา การ เมื่อจะให้ความเชื่อถือของผมมีหลักเกณฑ์มีเหตุผลขึ้นมา จำเป็นต้องนำเรื่องของสำเร็จลุนออกมาเปิดเผยแก่ทุกฝ่าย เพื่อแสดงความชัดเจนแห่งตัวตนท่านจนปรากฏ กุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดขุมความรู้ของสำเร็จลุน คือบรรดาลูกศิษย์ของท่านทั้งหลายที่ยังคงมีชีวิตอยู่และพำนักในสถานที่ต่างๆ กัน แต่การออกสืบค้นประวัติของสำเร็จลุน ก็ช่างได้รับความลำบากยากเข็ญ และเป็นการเริ่มต้นที่เรียกว่าสายไปหน่อย เหมือนกับผมเป็นคนบ้านนอกเข้ากรุงตามหาญาติพี่น้องที่ผมไม่รู้จักถนนหนทาง ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถามคนข้างทางแล้วหาเรื่อยไป พอไปพบสถานที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของญาติ ก็ปรากฏว่าย้ายที่อยู่ไปแล้ว หรือไม่ก็ตายไปเป็นส่วนใหญ่ ไปหาหลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงหาร นายูง อุดรธานี ฝ่าทางเปลี่ยวกลางหุบเขาและป่าใหญ่เข้าไปด้วยความหวังจะได้รับความสว่างจาก หลวงปู่เครื่อง เพราะทราบว่าท่านเป็นศิษย์สำเร็จลุนอย่างแท้จริง เมื่อไปถึงจึงได้ทราบว่าทางวัดเพิ่งจะพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เครื่องก่อนหน้าที่ผมจะไปถึงวัดเทพสิงหารแค่ 3 วัน แต่นับว่าไม่เสียเปล่าเพราะหลวงปู่คำ ผู้เป็นหลานหลวงปู่เครื่องยังมีเมตตามอบอัฐิธาตุของหลวงปู่เครื่องให้ผมชิ้นโต อัฐิธาตุนั้นเวลานี้ประดิษฐานอยู่ในฐานพระพุทธรูปบูชาบนหิ้งของผมตลอดมา ผู้ร่วมรู้รสความยากลำบาก ความมีหวังก่อนออกเดินทาง ความผิดหวังเมื่อไปถึง ความเหน็ดเหนื่อยที่เกิดได้ทั้งความมุ่งมั่นเข้มแข็งและท้อถอยในบางโอกาส ซึ่งผมจะต้องกล่าวนามท่านไว้เป็นเกียรติ คือ คุณปัญญา โกวิทธวงศ์ เจ้าของ หจก. เอเวอร์กรีน ฟาร์มา และคุณเวทย์ โทประสิทธิ์ (ปัจจุบันบวชเป็นภิกษุไปแล้ว โดยบวชกับหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม) ทั้งสองท่านคือเพื่อนร่วมคิดร่วมค้นที่ทำให้การลงมือครั้งนั้นไม่เงียบเหงา เดียวดาย ตลอดเวลาหลายเดือนที่หมดไปกับการออกเดินทางค้นหาศิษย์สำเร็จลุน ซึ่งในที่นี้จะข้ามไปไม่กล่าวถึงเพราะเห็นว่าเยิ่นเย้อเสียเวลาเกินไป ในระหว่างที่เกิดความท้อถอย ผมได้อ่านประวัติหลวงปู่โทน วัดบูรพา บ.สะพือ อุบลฯ ซึ่งท่านก็มรณภาพไปแล้วเช่นกัน และได้พบเรื่องราวของสำเร็จลุน ซึ่งหลวงปู่โทนได้เล่าถึงระหว่างสมัยที่ท่านได้พบและอยู่อบรมกับสำเร็จลุ นมากพอควร ก็ยิ่งทำให้ความเสียดายงอกงามขึ้นในจิตใจ ตัดพ้อต่อตนเองว่าทำไมจึงมาคิดลงมือทำในขณะที่ทุกท่านที่เป็นศิษย์สำเร็จลุ นมรณภาพกันไปหลัด ๆ ทั้งนั้น ทันใดชื่อพ่อแสง บ้านท่าบ่อก็ปรากฏขึ้นมาผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้บอกข่าวพ่อแสงแก่ผม ถ้านึกออกผมจะขอบันทึกชื่อของเขาไว้ด้วยความขอบคุณ พ่อแสง เป็นชาวบ้านท่าบ่อ ใกล้ๆ หาดคูเดื่อ บ้านอยู่ริมถนนสายรอบเมืองอุบลฯ ปัจจุบันมีอายุ 80 กว่าปี ท่านผู้นี้เคยเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาการและคาถาอาคมกับท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด นนฺตโร) วัดทุ่งศรีเมือง ขณะยังรุ่นหนุ่ม พ่อแสงได้เล่าว่า ตัวท่านเองได้ศึกษาอยู่กับพระครูวิโรจน์ฯ นานปี จนท่านพระครูฯ รู้สึกตัวว่าได้สอนให้จนหมดไส้หมดพุงแล้ว จึงได้ออกปากแก่พ่อแสงว่า ?ถ้าเจ้าอยากได้ดีได้เด่นกว่านี้ให้ไปหาเณรแก้วหรือเณรคำ? เณรแก้วกับเณรคำ เป็นศิษย์สำเร็จลุนเช่นเดียวกับท่านพระครูวิโรจน์ฯ โดยเข้าฝากตัวเป็นศิษย์ในเวลาใกล้เคียง จนสามารถกล่าวได้ว่าพร้อมกันต่างแต่เพียงว่าท่านพระครูวิโรจน์ฯ เป็นพระ เณรแก้วกับเณรคำยังเป็นสามเณร ท่านพระครูได้กล่าวยกย่องเณรแก้วกับเณรคำว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแตกฉานกระบวน วิชาทั้งหลายที่สำเร็จลุนอบรมสั่งสอนให้ได้มากกว่าตัวท่านเอง เมื่อท่านได้สอนพ่อแสงจนหมดเช่นนี้แล้ว พ่อแสงยังอยากศึกษาต่อก็ควรออกไปหาตัวเณรแก้วหรือเณรคำเพื่อศึกษาในขั้นต่อไป พร้อมกันนั้นก็ได้อธิบายลักษณะของเณรแก้วกับเณรคำให้พ่อแสงฟังว่าเป็นคนเช่นไร และควรเริ่มต้นติดตามหาตัวเณรแก้วกับเณรคำได้ที่ไหน คงต้องหยุด คุยข้างทางเกี่ยวกับพระครูวิโรจน์รัตโนบลสักครู่หนึ่ง คือขณะที่เรากำลังเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง บังเอิญเห็นคนรู้จักกันยืนอยู่ข้างทางก็หยุดคุยทักทายเล็กน้อยแล้วค่อยเดิน ทางต่อไป ว่างั้นเถิด ท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล เท่าที่ผมได้สนทนาศึกษาเกี่ยวกับท่านโดยคุยกับหลวงปู่สังข์ ฐิตธมฺโม วัดผาณิตาราม ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระครูวิโรจน์ฯ ท่านหนึ่ง ทราบว่าท่านพระครูฯ มีครูบาอาจารย์หลายคน แนวทางวิชาที่ท่านได้สอนศิษย์ก็มีที่มาแตกต่างกัน ใช่จะมาจากสำเร็จลุนแต่เพียงผู้เดียวไม่ ข้อนี้เห็นจะเป็นเพราะท่านเป็นผู้สนใจศึกษาวิทยาคมอยู่ตลอดเวลา เป็นผู้ใฝ่รู้ในสิ่งต่าง ๆ วิชาทางช่างศิลป์ท่านก็ได้มา จนมีความรู้ความสามารถถึงกับได้ไปบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม และได้ฝากฝีมือทางช่างไว้ที่วัดต่าง ๆ ในภาคอีสานหลายวัดหลวงพ่อยังสอนให้พวกเรามีเมตตาสงสาร สงเคราะห์ผู้ที่ยากไร้ เวลาท่านรับบิณฑบาตอาหารแห้งและเครื่องอุปโภคบริโภค นอกจากท่านจะให้นำไปทานตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ แล้ว ท่านยังให้นำไปสงเคราะห์นักโทษที่เรือนจำอีกด้วย เวลาแม่ค้าขายของไม่ได้ ท่านก็จะเมตตาให้ช่วยซื้อจำนวนมาก เวลานั่งรถไปตามท้องถนนท่านก็จะชี้ให้เห็นความทุกข์ยากของตำรวจซึ่งต้องยืนตากแดดตากฝน และคอยเตือนไม่ให้พวกเราทำผิดกฎจราจร หรือทำผิดแล้วก็ให้ยอมรับผิดและรับการลงโทษเพื่อไม่ให้สร้างปัญหาหนักใจแก่ตำรวจ บางครั้งท่านก็จะแจกวัตถุมงคลให้ตำรวจเป็นกรณีพิเศษ แต่ละวันจะมีคนที่ไม่มีค่าโดยสารรถกลับบ้าน พ่อค้า แม่ขาย เข้ามาขอรับความเมตตาจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็จะให้ความเมตตาอยู่เสมอ การได้อยู่รับใช้หลวงพ่อและได้เน้นความเมตตาของท่านทำให้พวกเราเริ่มมองเห็นและเข้าใจความทุกข์ยากลำบากของผู้อื่น และ "ติดดิน" โดยไม่รู้ตัว การเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ สำหรับหลาย ๆ คนจึงเป็นการเปลี่ยนชีวิตใหม่อย่างสิ้นเชิง...ยังทำให้เราสิ้นสงสัยในคำสรรเสริญองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "โย อิมัง โลกัง สะเทวกัง สะมาระกัง สะพรัมมะกัง สัสสะมะนะ พราหมณิงปะชัง สะเทวมนุสสัง สะยังอภิญญา สัจจิกัตวาปะเวเทสิ...ก็ในเมื่อแม้สงฆ์สาวกที่เกิดขึ้นตามหลังถึงเกือบสามพันปี เช่นพระอาจารย์หลวงพ่อบุญเพ็ง กปปโก ก็ยังเจริญรอยตามพระองค์ท่านได้ไม่ผิดเพี้ยนเช่นนี้ การเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ สำหรับหลาย ๆ คนจึงเป็นการเปลี่ยนชีวิตใหม่อย่างสิ้นเชิง ด้วยความยินยอมพร้อมใจ และโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ นอกจากจะทำให้พวกเราเข้าใจธรรมะคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาที่ตรงแท้แน่นอนแล้ว ยังทำให้เราสิ้นสงสัยในคำสรรเสริญองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "โย อิมัง โลกัง สะเทวกัง สะมาระกัง สะพรัมมะกัง สัสสะมะนะ พราหมณิงปะชัง สะเทวมนุสสัง สะยังอภิญญา สัจจิกัตวาปะเวเทสิ ทรงสอนโลกนี้ พร้อมทั้งเทวดา มารพรหม และหมู่สัตว์ พร้อมสมณพราหมณ์ ให้รู้ตาม" ก็จะสงสัยได้อย่างไรเล่า ในเมื่อแม้สงฆ์สาวกที่เกิดขึ้นตามหลังถึงเกือบสามพันปี เช่นพระอาจารย์หลวงพ่อบุญเพ็ง กปปโก ก็ยังเจริญรอยตามพระองค์ท่านได้ไม่ผิดเพี้ยนเช่นนี้